อาหารไทย๔ภาค
อาหารไทย 4 ภาค
อาหารไทยเป็นที่ขึ้นชื่อทั่วโลก ทั่วประเทศ อาหารไทยมีเอกลักษณ์ของตัวเองที่น่าค้นหาและมีความสวยงาม รสชาติที่แตกต่างไปจากอาหารของประเทศอื่นๆ อาหารไทยจะมีรสชาติ หลากหลายประเภท อาหารแต่ละประเภทนั้นสามารถจำแนกได้ตามภูมิภาคของประเทศไทย เมนูอาหารไทยทั้ง4 ภาคนั้นความแตกต่างที่เห็นได้ชัดเจนคือ รูปลักษณ์และรสชาติของเมนูในแต่ละภาคซึ่งปัจจัยหลักของเมนูเหล่านั้นสามารถแจกแจงได้คราวๆ ว่ามาจากสาเหตุหลักอยู่ไม่กี่อย่างคือ ภูมิประเทศ วัฒนธรรม และ สภาพแวดล้อมของสถานที่นั้นๆ
อาหารภาคเหนือ
ด้วยลักษณะภูมิประเทศของภาคเหนือนั้นจะตั้งอยู่ใกล้กับประเทศ พม่า เวียดนาม และยังเคยเป็นอาณาจักรล้านนามาก่อน จึงทำอาหารภาคเหนือนั้นได้รับอิทธิพลมาจากประเทศบ้านใกล้เรือนเคียงมาเป็นอย่างมากอาหารทางภาคเหนือจะมีรสชาติอ่อนกว่าอาหารภาคอื่นๆ อาหารภาคเหนือจะมีรสชาติไม่จัดจ้านเหมือนภาคอื่นๆ คนที่อยู่ภาคเหนือจะรับประทานอาหารที่มีรสชาติกลางๆไม่เน้นไปทานใดทางหนึ่งเช่นไม่เปรี้ยว ไม่เค็ม ไม่หวานหรือจืดเกินไป เนื้อสัตว์ที่นิยมนำมาประกอบเมนูอาหารได้แก่เนื้อหมู เนื้อไก่
อาหารขึ้นชื่อทางภาคเหนือที่เรามักจะได้พบเห็นได้แก่ เมนูน้ำพริก เช่น น้ำพริกหนุ่ม น้ำพริกแดง น้ำพริกอ่อง แกงโฮะ แกงฮังเล หรือไส้อั่ว จิ้นปิ้ง แหนม อาหารเหล่าเป็นอาหารที่ขึ้นชื่อของภาคเหนือ ส่วนใหญ่จะนิยมทานกับผักต้มจะเข้ากันได้ดี
อาหารใต้
อาหารภาคใต้จะเป็นอาหารที่มีชาติของอาหารจาก มาลายู ภาคกลางและจีน มีรสชาติเผ็ดและเค็ม อาหารภาคใต้ส่วนใหญ่นั้นมักเป็นอาหารที่ประกอบไปด้วยปลา หรือสัตว์ทะเลชนิดอื่นๆ และมีผงขมิ้นในส่วนประกอบเมนูอาหาร เพื่อลดความคาวของสัตว์ทะเลที่นำมาประกอบอาหารนั้นเอง รสชาติของอาหารภาคใต้นั้นจะเผ็ดจัด เค็มเปรี้ยว แต่ไม่นิยมรสหวาน เช่นแกงไตปลา แกงพริก เป็นต้นอาหารภาคใต้จะมีรสชาติเผ็ดที่สุดในบรรดาภาคอื่นๆเมนูอาหารที่มีชื่อเสียงของภาคใต้ ได้แก่ แกงไตปลา แกงเหลือง จำพวกเมนูเครื่องจิ้มได้แก่ น้ำบูดูที่น้ำมารับประทานกับข้าวยำ และที่พลาดไม่ได้คือ ผัดสะตอ เป็นเมนูที่ขึ้นชื่อของภาคใต้เราเลยทีเดียว
อาหารภาคกลาง
อาหารภาคกลาง รสชาติจะมีทั้งหวาน เปรี้ยว เค็ม และเผ็ด มัน รสชาติจัดจ้านลงตัว กลมกล่อมลงตัวการผสมผสานของรสชาติอาหารภาคกลางนั้นจะใช้ส่วนผสมแตกต่างกันไปตามแต่ละเมนูส่วนใหญ่จะใช้ทั้งเนื้อสัตว์และพืชผักทางการเกษตร สามารถนำมาปรุงได้หลากหลายเมนู อาหารภาคกลางนั้นจะมีความประณีตในการตกแต่งอาหารให้ชวนรับประทาน การนำผัก แตงกวา ผักชี หรือต้นหอมมาตกแต่งหน้าจานอาหารให้ดูน่ารับประทานมายิ่งขึ้นนั้นแสดงให้เห็นถึงรูปลักษณ์ความอุดมสมบูรณ์ภาคกลางที่สามารถจัดหาพืชผักมาจัดวางเพิ่มความสวยงามในเมนูอาหารนั้นๆได้มากขึ้นเมนูอาหารภาคกลาง โดยทั่วไปจะ มีรสหวานนำเล็กน้อยให้ติดปลายลิ้น การรับประทานอาหารของภาคกลางนั้นส่วนใหญ่จะรับประทานคู่กับข้าวสวยเป็นหลังไม่ว่าจะมีกับข้าวเป็นเมนูใดก็ตาม
อาหารภาคอีสาน
ภาคอีสานเป็นภาคที่ค่อนข้างแห้งแล้ง วัตถุดิบที่นำมาประกอบอาหารจะเป็นแหล่งอาหารซึ่งหาได้ตามธรรมชาติส่วนใหญ่ ได้แก่ ปลา แมลงบางชนิด พืชผักต่าง ๆ การนำวิธีการถนอมอาหารมาใช้เพื่อรักษาอาหารไว้กินนาน ๆ จึงเป็นส่วนสำคัญในการดำรงชีพของคนอีสานอาหารอีสาน ส่วนใหญ่จะมีรสชาติติดเค็มหรือเผ็ด เพราะส่วนหนึ่งได้รับอิทธิพลมาจากอาหารฝั่งประเทศลาว ด้วยสภาพภูมิประเทศที่แห้งแล้งของภาคอีสาน จึงทำให้คนในภูมิภาคอีสานนั้นหาปลาหรือสัตว์ และผักพืชที่หาได้ง่ายๆมาปรุงอาหาร อาหารหลักของภาคอีสานนั้นจะมีข้าวเหนียวเป็นอาหารหลัก รับประทานคู่กับเมนูต่างๆไม่ว่าจะเป็นปิ้ง ย่าง ต้ม หรือเมนูคลุกเคล้า เช่น ปลาย่าง ไก่ย่าง ต้มแซ่บ ลาบ และเมนูอื่นๆอีกมากมาย แต่จะเน้นเอาสัตว์ที่พอหาได้ตามท้องถิ่นนั้นๆ และพลาดไม่อาหารที่ปรุงนั้นต้องมีรสจัด
อาหารไทย4ภาคทั้งหมดนั้นปัจจุบันเราค่อนข้างหารับประทานได้ง่าย สามารถหารับประทานได้ตามร้านอาหารข้าวแกง ร้านอาหารตามสั่ง ไม่ว่าจะเป็นแกงไตปลา แกงเหลือง หรือ น้ำพริกอ่อง น้ำพริกหนุ่ม อาหารขึ้นชื่อของแต่ละภาคนั้นจะมีเอกลักษณ์ที่ถ่ายทอดจากรุ่นสู่รุ่น รสชาติของความจัดจ้านในแต่ละเมนูก็ยังคงความอร่อย ความประณีตชวนให้รับประทาน
รวมเมนูอาหารไทย4ภาค
เมนูอาหารภาคเหนือ- น้ำพริกหนุ่ม
- น้ำพริกแดง
- น้ำพริกอ่อง
- แกงโฮะ
- แกงฮังเล
- ไส้อั่ว
- จิ้นปิ้ง
- แหนม
เมนูอาหารภาคกลาง
- แกงเผ็ดไก่
- แกงขี้เหล็ก
- พะแนงหมู
- ต้มข่าไก่
- แกงส้มผักรวม
เมนูอาหารภาคไทยอีสาน
- ส้มตำไทย
- ลาบหมู
- ลาบปลาดุก
- เสือร้องไห้
- ตำซั่ว
- เนื้อน้ำตก
- ตับหวาน
- หมูย่างน้ำตก
เมนูอาหารภาคใต้
- สะตอผัดกะปิกุ้งสด
- แกงเหลือง
- ผักเหลียงผัดไข่
- ขนมจีนน้ำยาใต้
- แกงไตปลา
- ข้าวยำ
- แกงคั่วหอยแครงใส่ใบชะพลู
ตัวอย่างสูตรอารหารในแต่ละภาค
ส่วนผสม:เครื่องน้ำพริก
|
วิธีทำแกงเผ็ดไก่
| |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
|
แกงอ่อมหมู
ส่วนผสมที่ใช้ทำเเกงอ่อมหมู
เนื้อหมูหั่นชิ้นบางๆพอคำ (200 กรัม) 1 ถ้วยตวง
กะหล่ำปลี หั่นเป็นชิ้นพอคำ (250 กรัม) 2 ถ้วยตวง
กวางตุ้ง (250 กรัม) 2 ถ้วยตวง
ผักชีลาวหั่นท่อนยาว 1 นิ้ว (25 กรัม) ¼ ถ้วยตวง
ต้นหอมหั่นท่อนยาว 1 นิ้ว (30 กรัม) ¼ ถ้วยตวง
ตะไคร้หั่นท่อน 1 นิ้วบุบพอแหลก (42 กรัม) 3 ต้น
ใบมะกรูดฉีก (4 กรัม) ประมาณ 4 ใบ
น้ำปลาร้า (50 กรัม) ¼ ถ้วยตวง
น้ำปลา (24 กรัม) 2 ช้อนโต๊ะ น้ำเปล่า 2 ถ้วยตวง
คนอร์ซุปหมูก้อน 1 ก้อน ข้าวคั่ว 2 ช้อนโต๊ะ
บางสูตรอาจจะใส่ข้าวเบือ ข้าวเบือ คือน้ำข้าวสารไปแช่น้ำ แล้วนำมาโขลกเพิ่มความข้น หัวหอมแดงประมาณ (40 กรัม) 8 หัว
พริกขี้หนูประมาณ (20 กรัม) 15 เม็ด
วิธีทำ
1
โขลกพริกขี้หนู กับหอมแดงให้เข้ากันพอแหลก
2
ยกหม้อขึ้นตั้งไฟกลาง ใส่ส่วนผสมที่โขลกไว้ลงไป ตามด้วยตะไคร้ และเนื้อหมู เติมน้ำเปล่าลงไปเล็กน้อย
3
ปรุงรสด้วยปลาร้า และน้ำปลา รวนเนื้อหมูจนสุก และส่งกลิ่นหอม
4
เติมน้ำเปล่าลงไป พอเดือดแล้วใสคนอร์ซุปก้อนรสหมู และข้าวคั่ว คนจนละลายเข้ากันดี
5
ใ่ส่กะหล่ำปลี กวางตุ้ง ต้นหอม และผักชีลาว ต้มจนผักทั้งหมดสุก แล้วตักใส่ชามเสิร์ฟได้เลย
คั่วกลิ้งหมู
ส่วนผสมการทำคั่วกลิ้งหมู
เนื้อหมูหั่นเป็นชิ้นเล็ก 800 กรัม
ใบมะกรูดหั่นฝอย 10 ใบ
ตะไคร้ซอยแว่นบาง 4 ต้น
น้ำมันพืช 1 ช้อนโต๊ะ
พริกไทยสดเม็ด ¼ ถ้วยตวง
พริกไทยดำโขลกหยาบ ½ ช้อนชา
คนอร์อร่อยชัวร์ 1 ช้อนโต๊ะ
น้ำเปล่า ½ ถ้วยตวง
พริกแกง หอมแดง (4 หัว) 3 ช้อนโต๊ะ
กระเทียม (6 กลีบใหญ่) 3 ช้อนโต๊ะ
พริกไทยเม็ด 20 -30 เม็ด
ขมิ้น (แง่งเล็ก 2 แง่ง) 2 ช้อนโต๊ะ
ตะไคร้ซอย (2 ต้น) 3 ช้อนโต๊ะ
พริกขี้หนูแห้ง (10 กรัม) ประมาณ 20 เม็ด
เกลือ ½ ช้อนชา
โขลกทุกอย่างให้ละเอียดจะได้พริกแกงประมาณ 3 ช้อนโต๊ะ
วิธีทำ
1
ตั้งกระทะน้ำมันบนไฟร้อนปานกลาง ใส่พริกแกงลงผัดจนหอมดี ใส่หมูที่หั่นไว้ลงไป แล้วใส่พริกไทยดำโขลกลงไป ผัดจนเข้ากันดี
2
ปรุงรสด้วยคนอร์อร่อยชัวร์แล้วคั่วไปเรื่อยๆ จนน้ำแห้ง
3
ใส่ตะไคร้ซอย พริกไทยสดเม็ด และใบมะกรูดหั่นฝอย คั่วต่ออีกสักครู่ให้ส่วนผสมเข้ากัน จัดใส่จานพร้อมเสิร์ฟ
หมูคลุกฝุ่น
ส่วนผสมการทำหมูครุกฝุ่น
เนื้อหมูส่วนสะโพก 300 กรัม
คนอร์สูตรสำเร็จ ลาบ-น้ำตก 1 ซอง
น้ำตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ
น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ
ผักชีฝรั่งซอย 2 ช้อนโต๊ะ
น้ำมันสำหรับทอด
ผักชีฝรั่งซอยสำหรับโรยหน้า
น้ำจิ้มแจ่ว และผักสดเครื่องเคียง อย่างเช่น แตงกวา แครอทหั่นแท่ง
วิธีทำ
1
หั่นเนื้อหมูเป็นเส้น ตามแนวยาวของลายกล้ามเนื้อ จะทำให้เนื้อเป็นชิ้นสวย ไม่ควรหั่นขวางตัดผ่านแนวลายเส้นเนื้อ จะทำให้เนื้อเละไม่น่าทาน
2
ผสมเนื้อหมูกับคนอร์สูตรสำเร็จ ลาบ-น้ำตก น้ำตาลทราย น้ำปลา และผักชีฝรั่งซอย คลุกเคล้าให้เข้ากัน
3
วางเนื้อหมูลงบนตะแกรง แล้วนำไปตากแดด 1 ชั่วโมงจนเนื้อหมูแห้ง และแข็งขึ้นเล็กน้อย ระหว่างตากแดด ให้หมั่นกลับเนื้อหมูจนแห้งทั่วถึงกันทุกด้าน
4
นำเนื้อหมูไปทอดในน้ำมันร้อนบนไฟกลาง จนสุกเหลืองดี ตักขึ้นสะเด็ดน้ำมัน โรยหน้าด้วยผักชีฝรั่งซอย เสิร์ฟพร้อมน้ำจิ้มแจ่ว และผักสดเครื่องเคียง
อ้างอิง
- https://www.knorr.com/th/recipe-ideas/regional-dishes.html
- https://www.thaifoodcookbook.net/thaifoodrecipes_th/tags_regional-thai-style-food-menu.html
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น